jir4yu.me - เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้









Search Preview

เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้ - Jir4yu.me

jir4yu.me
เมื่อคุณออกมาเป็นนายตัวเอง พึงระลึกไว้ได้เลยว่าแทบจะไม่มีอะไรแน่นอน เดือนนี้งานอาจจะเข้ามาเยอะมากจนทำไม่ไหว แต่พอเดือนสองเดือนหน้าก็อาจจะไม่มีเข้ามาเลย
.me > jir4yu.me

SEO audit: Content analysis

Language Error! No language localisation is found.
Title เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้ - Jir4yu.me
Text / HTML ratio 24 %
Frame Excellent! The website does not use iFrame solutions.
Flash Excellent! The website does not have any flash contents.
Keywords cloud Jir4yume WordPress balance Limjinda Jirayu Life เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ กลายเป็นเราเองที่เก็บไปคิดถึงช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่ไม่สามารถผ่านมันไปได้ ได้แต่พูดกับตัวเองว่า “ถ้ารู้อย่างนั้น” “วันนั้นถ้าเป็นแบบนั้น หรือถ้ารู้แบบนี้” ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อะไรที่ไม่ควรทำ ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แล้วยังไงต่อ?
Keywords consistency
Keyword Content Title Description Headings
Jir4yume 2
WordPress 2
balance 2
Limjinda 2
Jirayu 2
Life 2
Headings
H1 H2 H3 H4 H5 H6
1 2 4 0 0 0
Images We found 11 images on this web page.

SEO Keywords (Single)

Keyword Occurrence Density
Jir4yume 2 0.10 %
WordPress 2 0.10 %
balance 2 0.10 %
Limjinda 2 0.10 %
Jirayu 2 0.10 %
Life 2 0.10 %
เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ 1 0.05 %
กลายเป็นเราเองที่เก็บไปคิดถึงช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่ไม่สามารถผ่านมันไปได้ 1 0.05 %
ได้แต่พูดกับตัวเองว่า 1 0.05 %
“ถ้ารู้อย่างนั้น” 1 0.05 %
“วันนั้นถ้าเป็นแบบนั้น 1 0.05 %
หรือถ้ารู้แบบนี้” 1 0.05 %
ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว 1 0.05 %
การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น 1 0.05 %
เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? 1 0.05 %
แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า 1 0.05 %
แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ 1 0.05 %
อะไรที่ไม่ควรทำ 1 0.05 %
ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก 1 0.05 %
แล้วยังไงต่อ? 1 0.05 %

SEO Keywords (Two Word)

Keyword Occurrence Density
Jirayu Limjinda 2 0.10 %
Jir4yume ความรู้สึก 1 0.05 %
หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ 1 0.05 %
การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? 1 0.05 %
เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ 1 0.05 %
เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ 1 0.05 %
อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต 1 0.05 %
แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? 1 0.05 %
แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง 1 0.05 %
สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา 1 0.05 %
วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง 1 0.05 %
หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง 1 0.05 %
แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง 1 0.05 %
หรือถ้ารู้แบบนี้” ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว 1 0.05 %
อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก 1 0.05 %
ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า 1 0.05 %
แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า 1 0.05 %
ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย 1 0.05 %
ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม 1 0.05 %
ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น 1 0.05 %

SEO Keywords (Three Word)

Keyword Occurrence Density Possible Spam
Jir4yume ความรู้สึก ที่ตอนไหนๆก็ไม่เหมือนกัน 1 0.05 % No
แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก 1 0.05 % No
เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ 1 0.05 % No
เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต 1 0.05 % No
อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? 1 0.05 % No
แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง 1 0.05 % No
แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา 1 0.05 % No
สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง 1 0.05 % No
วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง 1 0.05 % No
หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ 1 0.05 % No
หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง 1 0.05 % No
อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า 1 0.05 % No
ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? 1 0.05 % No
ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า 1 0.05 % No
แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย 1 0.05 % No
ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม 1 0.05 % No
ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น 1 0.05 % No
ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น 1 0.05 % No
พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ 1 0.05 % No
หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ คือถ้าไม่ออกตอนที่ยังเป็นเด็ก 1 0.05 % No

SEO Keywords (Four Word)

Keyword Occurrence Density Possible Spam
Jir4yume ความรู้สึก ที่ตอนไหนๆก็ไม่เหมือนกัน Home 1 0.05 % No
แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า 1 0.05 % No
เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต 1 0.05 % No
เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? 1 0.05 % No
อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง 1 0.05 % No
แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา 1 0.05 % No
แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง 1 0.05 % No
สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง 1 0.05 % No
วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ 1 0.05 % No
หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง 1 0.05 % No
หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก 1 0.05 % No
อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า 1 0.05 % No
ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ 1 0.05 % No
ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย 1 0.05 % No
แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้า ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม 1 0.05 % No
ถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น 1 0.05 % No
ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น 1 0.05 % No
ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ 1 0.05 % No
พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ คือถ้าไม่ออกตอนที่ยังเป็นเด็ก 1 0.05 % No
หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ คือถ้าไม่ออกตอนที่ยังเป็นเด็ก มีภาระน้อย 1 0.05 % No

Internal links in - jir4yu.me

Life
Life Archives - Jir4yu.me
Quote
Quote Archives - Jir4yu.me
Web dev.
Web dev. Archives - Jir4yu.me
Recommended
Recommended Archives - Jir4yu.me
Gadget
Gadget Archives - Jir4yu.me
WordPress
Wordpress Archives - Jir4yu.me
About
อ่านฉัน
เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้
เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้ - Jir4yu.me
มุมมองจากภายนอก
มุมมองจากภายนอก - Jir4yu.me
เมื่อ Agile อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน
เมื่อ Agile อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน - Jir4yu.me
เรื่องที่ไม่มีใครบอก เกี่ยวกับการออกมาเป็นนายตัวเอง
เรื่องที่ไม่มีใครบอก เกี่ยวกับการออกมาเป็นนายตัวเอง - Jir4yu.me
เราควรเสียภาษี และนี่คือเหตุผลว่าทำไม
เราควรเสียภาษี และนี่คือเหตุผลว่าทำไม - Jir4yu.me
ZERO to ONE – หนังสือดีสำหรับคนเริ่มต้นทำธุรกิจ
ZERO to ONE - หนังสือดีสำหรับคนเริ่มต้นทำธุรกิจ
ผลลัพธ์ที่ดี ต้องมาจากคำถามที่ถูกต้อง?
ผลลัพธ์ที่ดี ต้องมาจากคำถามที่ถูกต้อง? - จากการอ่านหนังสือ Start with Why
ทฤษฏีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ทฤษฏีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ย้อนไปดูเรื่องเก่าๆ
Jir4yu.me - Page 2 of 43 - ความรู้สึก.. ที่ตอนไหนๆก็(ไม่)เหมือนกัน

Jir4yu.me Spined HTML


เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้ - Jir4yu.me Jir4yu.meความรู้สึก.. ที่ตอนไหนๆก็(ไม่)เหมือนกันHomeCategoriesLifeQuoteWeb dev.RecommendedGadgetWordPressAboutรับเขียนเว็บไซต์เป็นนายตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าจะตามใจตัวเองได้ 23 November, 2018 ย้อนไปประมาณ 3-4 ปีที่แล้วในสมัยที่ผมยังทำงานประจำอยู่ ผมมักจะมองคนที่ประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นนายตัวเองว่าเป็นอาชีพที่น่าอิจฉา ไหนจะมีทั้งเวลาส่วนตัว จะทำงานตอนไหนก็ได้ ไปทำงานที่ไหนก็ได้ หรือจะรับงานไหนก็ได้แล้วแต่ใจอยาก ซึ่งตอนนั้นเราไม่มีอะไรที่เป็นอิสระเลยสักอย่าง ทำงานก็ต้องเข้างานให้ตรงเวลา แย่งกินแย่งใช้ร้านอาหารกลางวัน เบียดเสียดรอรถไฟฟ้า หรือรถติดอยู่บนทางด่วนทุกเช้าและเย็น อีกทั้งงานบางงานไม่มีความท้าทายอะไรเลย ก็เลือกปฏิเสธที่จะทำไม่ได้ โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่างานประจำนั้นก็มีข้อดีคือพอถึงทุกสิ้นเดือนก็การันตีได้เลยว่าจะได้เงินยอดนึง เวลาป่วย หรือทำฟันก็สามารถใช้สิทธิ์บางอย่างของบริษัทเบิกได้จนได้ออกมารับรู้ประสบการณ์เป็นนายตัวเองอย่างจริงจัง ช่วงแรกมันก็ดีครับ ได้ความอิสระหลุดจากพันธนาการที่เราเฝ้าตั้งคำถามในทุกๆ วันออกมา ตื่นสายได้ตามที่ต้องการ จะไปทำงานร้านกาแฟที่ไหนก็ได้ หรือจะออกต่างจังหวัด เอางานไปนั่งทำที่ริมชายหาดหัวหินดูพระอาทิตย์ตกดินก็ฟังดูดี ไหนจะสามารถเลือกงานที่เราอยาก หรือไม่อยากได้ด้วยตัวเอง เราเริ่มใช้ชิวิตเหมือนคนไร้ระเบียบวินัยมากขึ้นทุกวัน พอผ่านไปสักเดือนสองเดือนรู้ตัวอีกทีก็เริ่มรู้สึกว่าทำแบบนั้นคงไม่ได้แล้วฟรีแลนซ์หลายคนไม่อยากป่วยเพราะถ้าป่วยนั่นหมายความว่าเราต้องใช้เวลาในการรักษาตัว ไปหาหมอ พักผ่อนให้มากขึ้น และมีเวลาทำงานน้อยลง เมื่อเวลาทำงานน้อยลง ก็อาจจะทำให้งานชะงัก รายได้หดหาย ทั้งๆ ที่ปรกติงานก็อาจจะไม่ได้เข้ามาทุกเดือน หรือมีรายได้มั่นคงเหมือนกับตอนที่ทำงานประจำที่เราต่างรู้ว่าเมื่อถึงสิ้นเดือน เราจะได้เงินไปใช้จ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ไหนเวลาป่วยก็ต้องเสียเงินรักษาเอง จะทำฟันทีนึงก็จ่ายเอง เพราะงั้นการป่วยจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ฟรีแลนซ์หลายคนไม่อยากพบเจอ ไม่เหมือนกับตอนทำงานประจำเท่าไหร่ เพราะถ้าป่วยก็ลา ผลกระทบมันต่างกันมากอยู่ความไม่แน่นอนก็อีกหนึ่งปัจจัยเมื่อคุณออกมาเป็นนายตัวเอง พึงระลึกไว้ได้เลยว่าแทบจะไม่มีอะไรแน่นอน เดือนนี้งานอาจจะเข้ามาเยอะมากจนทำไม่ไหว แต่พอเดือนสองเดือนหน้าก็อาจจะไม่มีเข้ามาเลยก็เป็นได้ ไม่มีใครที่จะโชคดีมีโอกาสเข้ามาตลอดเวลา เมื่อไม่พร้อมก็ต้องยอมเข้าใจว่าคุณต้องเสียโอกาสนั้นไป พอเริ่มคิดได้ก็เริ่มเปลี่ยนตัวเอง จัดสรรเวลาในการทำงานใหม่ กลายเป็นเวลาตอนที่ไม่ได้ทำงานประจำเนี่ยเหนื่อยกว่าทำงานประจำเสียอีก เพราะต้องทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง ไหนลูกค้าจะมีมากมายหลายแบบ จนสุดท้ายบังคับตัวเองให้ตื่นตามเวลา ไม่เข้านอนดึก ระวังตัวเองไม่ให้ป่วย พร้อมสำหรับโอกาส, งานใหม่ที่จะเข้ามา เริ่มไม่มีวันทำงานที่ชัดเจน เพราะทุกวันคือวันทำงาน work-life wastefulness เริ่มหายไป เราเริ่มอินกับการทำงานมากขึ้น ทุกอย่างถูกจัดการเป็นระบบระเบียบ เริ่มรู้สึกว่าทำตัวให้คนอื่นอึดอัด เริ่มไม่มีการออกไปเที่ยวต่างจังหวัด พบเจอเพื่อนฝูงน้อยลง อ่านหนังสือมากขึ้นมารู้ตัวอีกทีคือเราเองที่เปลี่ยนไปเยอะมาก ผิดกับวันแรกๆ ที่ออกจากงานประจำ กลายเป็นว่าเราเหนื่อยมากขึ้น ทำงานมากขึ้น เอาการเอางานมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน เริ่มจะอยากรู้อะไรหลายๆ ของโลกทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับขอบเขตงานที่ทำ เข้าหาทุกโอกาสที่มีเสมอ คือถ้าพูดถึงเรื่องรายได้ มันไม่ได้มากกว่าตอนที่ทำงานประจำเท่าไหร่เลย แต่เหนื่อยกว่า มีขอบเขตความรับผิดชอบที่ต้องทำมากกว่า จนแรกๆ ก็คิดว่าคิดผิดหรือเปล่าที่ออกจากงานประจำมา.. ก็คงคิดผิดแหละ แต่ทุกคนก็เริ่มจากล่างสุดกันทั้งนั้น บริษัทใหญ่ๆ ผู้นำ หรือนักธุรกิจหลายๆ คนก็เริ่มจากการที่ไม่มีอะไรมาก่อนเหมือนกัน หนังสือธุรกิจหลายเล่มชี้ให้เห็นว่าผู้นำองค์กรใหญ่ๆ หลายๆ คนมีวิธีการคิดที่น่าสนใจ เป็นนักสู้ และไม่ได้ยอมแพ้ให้กับปัญญาที่ถาโถมเข้ามาผู้ตื้นเขินมักเชื่อในโชคชะตา ส่วนผู้ที่เข้มแข็งมักจะเชื่อในเหตุและผลถ้ายอมแพ้ ปัญหามันก็ยังอยู่ตรงนั้น กลายเป็นเราเองที่เก็บไปคิดถึงช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่ไม่สามารถผ่านมันไปได้ ได้แต่พูดกับตัวเองว่า “ถ้ารู้อย่างนั้น” “วันนั้นถ้าเป็นแบบนั้น หรือถ้ารู้แบบนี้” ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว การนึกถึงมันก็ไม่ได้ช่วยให้ปัจจุบันดีขึ้น.. เราได้เรียนรู้จากอดีตที่ผิดพลาดแล้วยังไง? เราก็แค่รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกในอนาคต แล้วยังไงต่อ? สุดท้ายเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสิ่งที่ถูกต้อง วิธีแก้ไขปัญหา หรือการผ่านพ้นมันไปได้คือยังไง หรือต้องทำยังไง แบบนั้นเรียนรู้จากความสำเร็จของคนอื่นไม่ดีกว่าหรือ อย่างน้อยก็สามารถนำอะไรบางอย่างมาประยุกต์ใช้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าชีวิตมันจะตะกุกตะกัก แต่อย่างน้อยก็มีกำลังใจให้ทำอะไรต่อไปในวันข้างหน้าถ้าถามว่า ให้ย้อนกลับไปได้ถึงตอนเลือกว่าจะออกจากงานประจำมั้ย ก็คงตอบเหมือนเดิม พอเรามีเหตุผลมากขึ้น หรือโตขึ้น เราอาจจะมองอีกมุมนึงของการตัดสินใจใหม่ก็ได้ คือถ้าไม่ออกตอนที่ยังเป็นเด็ก มีภาระน้อย แล้วจะให้ไปตัดสินใจตอนไหน ตอนที่อายุมาก มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบเยอะแล้วหรอ ทำไม่ได้หรอก เมื่อมนุษย์เราโตขึ้น เราก็ต้องการความมั่นคงมากขึ้นด้วยตามกันไปทำให้การตัดสินใจ เป็นการตัดสินใจของเราจริงๆ เสียตอนนี้ดีกว่าที่ต้องตัดสินใจ แต่กลับไม่รู้สึกว่าเป็นการตัดสินใจของเราเลยดีกว่าในอนาคต ในหมวดหมู่: Life คำค้น: ralph waldo emerson, work life wastefulness Jirayu Limjindaถ้าไม่รู้จักกัน บางทีคุณอาจจะไม่เข้าใจกับสิ่งที่ผมทำ.. กลับกัน ถ้าคุณรู้จักผมดี คุณจะไม่ต้องเอ่ยปากถามเลยว่าทำไม มุมมองจากภายนอกแสดงความคิดเห็นของคุณที่นี่ ยกเลิกการตอบ ระบุความคิดเห็น *ชื่อของคุณ *ระบุอีเมล์ * บทความทั้งหมดใน Jir4yu.me ถูกเขียนขึ้นโดย Jirayu Limjinda ภายใต้สัญญา CC BY-NC-ND 4.0WhiteTail is an opensource WordPress Theme by JindaTheme loading, please wait..0shares 0 0